47 จำนวนผู้เข้าชม |
ขั้นตอนการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม:
1. การเตรียมตัว
ผู้ป่วยจะได้รับการเจาะเส้นเลือดที่แขน 2 เส้น โดยเส้นหนึ่งสำหรับนำเลือดออกจากร่างกาย และอีกเส้นสำหรับนำเลือดกลับเข้าสู่ร่างกาย ในกรณีที่เส้นเลือดดำไม่สามารถใช้ได้ แพทย์อาจทำการผ่าตัดเชื่อมเส้นเลือดดำกับเส้นเลือดแดง (AV fistula) หรือใช้เส้นเลือดเทียม (AV graft) เพื่อให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและรองรับการฟอกเลือดได้
2. การฟอกเลือด
เลือดจะถูกดึงออกจากร่างกายผ่านทางสายฟอกเลือดและไหลเข้าสู่เครื่องไตเทียม ภายในเครื่องไตเทียมจะมีตัวกรอง (dialyzer) ที่ทำหน้าที่กรองของเสีย สารน้ำส่วนเกิน และเกลือแร่ที่เกินความจำเป็นออกจากเลือด โดยของเสียและน้ำส่วนเกินจะถูกกำจัดออกไปพร้อมกับน้ำยาฟอกเลือด ส่วนเลือดที่สะอาดแล้วจะถูกส่งกลับเข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วยผ่านทางสายฟอกเลือดอีกเส้นหนึ่ง
3. การดูแลหลังการฟอกเลือด
หลังการฟอกเลือดเสร็จสิ้น ผู้ป่วยอาจรู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อย และอาจมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ความดันโลหิตต่ำ หรือตะคริวได้ ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะหายไปเอง
ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยที่รับการฟอกเลือด
การดูแลความสะอาดของเส้นเลือด:
รักษาความสะอาดของบริเวณที่เจาะเส้นเลือด และหลีกเลี่ยงการทำแผลให้เปียกน้ำ
การสังเกตอาการผิดปกติ:
หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวม แดง ร้อน หรือมีไข้บริเวณที่เจาะเส้นเลือด ควรปรึกษาแพทย์ทันที
การดูแลเรื่องอาหารและยา:
ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการควบคุมอาหารและยาอย่างเคร่งครัด
ข้อดีของการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม
ช่วยลดอาการต่างๆ ที่เกิดจากภาวะไตวายเรื้อรัง เช่น อาการบวมน้ำ โลหิตจาง หรืออาการคันตามผิวหนัง
ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ช่วยยืดอายุของผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังได้
ข้อเสียของการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม
ต้องใช้เวลาในการฟอกเลือดนานประมาณ 3-5 ชั่วโมง และต้องทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
อาจมีอาการแทรกซ้อน เช่น ความดันโลหิตต่ำ ตะคริว หรืออาการอื่นๆ
ต้องมีการเตรียมเส้นเลือดก่อนการฟอกเลือด ซึ่งอาจต้องมีการผ่าตัด
การเลือกวิธีการบำบัดทดแทนไต รวมถึงการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม เป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างผู้ป่วยและแพทย์ โดยพิจารณาจากสภาวะสุขภาพของผู้ป่วยและความสะดวกในการเข้ารับการรักษา